อาหารเสริมชาย ยาที่ทำให้น้องชาย แข็งแรง ทนทาน ชะลอการหลั่งเร็ว

ในปัจจุบันมี คนจำนวนไม่น้อยที่มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ ยาที่ทำให้แข็ง หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ ยา ซึ่งในวันนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาชนิดนี้กันว่า มีที่มาเป็นอย่างไรบ้าง มีกี่ประเภทหรือกี่รูปแบบ รวมถึงมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง มีวิธีใช้อย่างไร มีผลกระทบหรือข้อเสียในการใช้งานอย่างไรบ้าง อีกทั่งเรื่องความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ ยา ที่คนทั่วไปเข้าใจผิดกันว่ามีอะไรบ้าง

มาทำความรู้จักกับ ยา

ยา หรือยาที่หลายคนรู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติทำให้อวัยวะเพศชาย แข็งตัว ซึ่งที่จริงแล้วชื่อ “” หรือ คือ ยี่ห้อของยาชนิดนี้ โดยเป็นชื่อทางการค้าที่บริษัทยาจากประเทศสหรัฐเป็นผู้จดสิทธิบัตรเอาไว้ ส่วนสารออกฤทธิ์ที่ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวก็คือ สารที่มีชื่อว่า sildenafil เป็นยาที่มีคุณสมบัติออกฤทธิ์ทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัว เป็นยาที่รักษาอาการอวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือที่เรียกว่านกเขาไม่ขันนั่นเอง

ซึ่งกลไกการทำงานของ ยา จะไปทำให้ผนังหลอดเลือด บริเวณอวัยวะเพศชาย เกิดการขยายตัว แล้วก็ไปช่วยการไหลเวียนของเลือด เข้าสู่กล้ามเนื้อของอวัยวะเพศได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นมีการขยายตัว จึงเป็นการทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวนั่นเอง ซึ่งยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อมีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเท่านั้น ซึ่งยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์ประมาณ 30 – 60 นาที หลังจากที่รับประทานเข้าไป ซึ่งจำเป็นจะต้องกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 ชั่วโมง

ซึ่งตัวยาจะหมดฤทธิ์ช้าหรือว่าเร็ว ขึ้นอยู่กับปริมาณที่กินเข้าไปหากรับประทานเข้าไป ในปริมาณที่น้อย อย่างเช่น 25 mg ก็อาจจะใช้เวลาหมดฤทธิ์ในเวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากทานยานี้เข้าไป และสำหรับใครที่ทานยานี้เข้าไปแล้วยายังไม่ออกฤทธิ์ ห้ามกินยาประเภทนี้ซ้ำเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะยาชนิดนี้มีคุณสมบัติในการขยายหลอดเลือด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของผู้ที่กินยาชนิดนี้เข้าไป ดังนั้นจึงควรปรึกษาแพทย์ และห้ามใช้ยานี้มากกว่าวันละ 1 ครั้ง

ชนิดของ ยา

สำหรับ ยา ที่ใช้ในการรักษาอาการอวัยวะเพศไม่แข็งตัว หรือที่เรียกว่า Erection Dysfunction ในปัจจุบันนี้แบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามชื่อสามัยของตัวยาในการออกฤทธิ์ คือ

1. Sildenafil ที่ใช้ใน ยา

เป็นยาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยต้องกินก่อนมีเพศสัมพันธ์ 1 ชั่วโมง และควรกินในขณะที่ท้องว่างจะให้ผลดีกว่า สามารถออกฤทธิ์ได้นานสูงสุดถึง 4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่ปริมาณยาที่กินเข้าไป โดยตัวยามีวางขายอยู่ที่ 25, 50 และ 100 มิลลิกรัม

2. Vardenafil ที่ใช้ใน ยาเลวิตร้า

ออกฤทธิ์ได้เร็วกว่า คือไวกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นยาชนิดละลายในปาก จึงทำให้ดูดซึมได้ไวกว่า โดยอาหารจะส่งกระทบต่อการออกฤทธิ์ของยาได้น้อยกว่า ดังนั้นสามารถกินเวลาไหนก็ได้ จึงค่อนข้างสะดวกกว่า โดยตัวยามีวางขายอยู่ที่ 2.5, 5, 10 และ 20 มิลลิกรัม สำหรับปริมาณเริ่มต้นที่แนะนำคือ 10 มิลลิกรัม

3. Tadalafil ที่ใช้ใน ยาเซียลิส

แนะนำว่าควรใช้ Tadalafil เพียงหรึ่งครั้งต่อวัน เนื่องจากยาสามารถออกฤทธิ์ได้ตั้งแต่ 24 – 36 ชั่วโมง จึงทำให้มีการตกค้าง หรือตัวยาคงอยู่ในกระแสเลือดของคุณได้ถึง 2 วันหรืออาจมากกว่า และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ร่วมกับยานี้ เพราะอาจทำให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้เวียนศีรษะหรือเป็นลมได้ ขนาดเริ่มต้นในกรณีที่กินอย่างต่อเนื่องเพื่อคงสมรรถภาพทางเพศเอาไว้คือ 2.5 มก. แต่สำหรับการใช้เป็นครั้งคราวนั้นแนะนำที่ 10 มก.

4. Avanafil ที่ใช้ใน ยาสเตนดร้า

เป็นยาในกลุ่มช่วยรักษาอาการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศ ที่เพิ่งได้รับการรับรองจากยุโรปและอเมริกาเป็นตัวล่าสุด สามารถออกฤทธิ์เร็วที่สุดในบรรดายากลุ่มนี้ คือภายใน 15 นาทีหลังกินยา โดยสามารถกินได้ง่ายกว่า ยา ไม่ว่าจะเป็นก่อนหรือหลังอาหาร ก็ไม่มีผลกระทบอะไรกับการออกฤทธิ์ของยา ขนาดเริ่มต้นที่แนะนำคือ 100 มก. โดยตัวยามีวางขายอยู่ที่ 50, 100 และ 200 มิลลิกรัม

ทำไมคุณผู้ชายหลาย ๆ คนถึงใช้ ยา ไม่ได้ผล

สำหรับคุณ ๆ ที่มองว่า ยา คือยาที่สวรรค์ส่งมาโปรด และจะเป็นอาวุธลับที่ทำให้คุณกับมาฟิตปึ๋งปั๋งได้เหมือนเดิม แต่เมื่อเอาเข้าจริง ๆ แล้วกลับพบว่ากินยาเข้าไปแล้วก็ยังไม่แข็งดั่งตั้งใจ สาเหตุก็เพราะว่า ยา จะออกฤทธิ์ได้เมื่อมีอารมณ์ทางเพศเท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณจะต้องได้รับการปลุกเร้า หรือการกระตุ้นทางเพศจากสิ่งต่าง ๆ เสียก่อน ตัวยาจึงจะเริ่มทำงาน ดังนั้นปัจจัยที่เกี่ยวข้องมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ยาได้ผลก็คือ “อารมณ์”

มีผู้ชายบางส่วนใช้ยาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ทางเพศให้ได้อรรถรสมากยิ่งขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือน้องชายไม่สู้แต่อย่างใด ซึ่งผู้ใช้ยาในกลุ่มนี้มักจะพบว่ายาออกฤทธิ์ได้ดี และได้ผลลัพธืตรงตามที่ต้องการ สาเหตุหลักเลยก็เพราะว่า ผู้ชายกลุ่มนี้มีแรงขับทางเพศอยู่แล้ว เรียกง่าย ๆ ว่ามีความอยาก มีความสนใจในเรื่องเพศอยู่แล้ว มีจินตนาการที่จะทำนี่ทำนั่นอยู่ในหัว จึงต่างจากกลุ่มผู้ใช้ยาที่น้องชายไม่พร้อมปฏิบัติภารกิจ เนื่องจากไม่มีความต้องการทางเพศเป็นที่ตั้งนั่นเอง

กลไกการทำงานของ ยา

ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกับกระบวนการกันก่อนว่า กว่าน้องชายจะคึกคักพร้อมออกศึกนั้น ต้องมีอะไรมาเกี่ยวข้องบ้าง โดยทั่วไปแล้ว อวัยวะเพศชายจะแข็งตัวได้เนื่องมาจากการทำงานของหลาย ๆ ระบบประกอบกัน โดยเริ่มจากต้องมี “สิ่งเร้า” หรือสิ่งที่มากระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศก่อน ซึ่งเมื่อเกิดอารมณ์ได้ที่ดีแล้ว สมองก็จะส่งสัญญาณผ่านทางระบบประสาทไปที่อวัยวะเพศชาย เพื่อไปกระตุ้นให้หลอดเลือดในบริเวณนั้นขยายตัว มีเลือดมาคั่งมากขึ้น ประกอบกับผนังบุเนื้อเยื่อของอวัยวะเพศชายที่มีลักษณะเหมือนฟองน้ำ จึงสามารถกักเก็บเลือดให้ค้างอยู่ที่อวัยวะเพศได้นานมากยิ่งขึ้น

กระบวนการทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ อวัยวะเพศชายมีขนาดใหญ่และแข็งตัว เพื่อพร้อมให้ใช้อาวุธเพื่อการศึกได้นั่นเอง แต่ถ้าหากมีสิ่งเร้ามากระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศแล้ว อารมณ์มาแต่อาวุธยังไม่พร้อมออกรบ น้องชายไม่พร้อมออกศึก หรือที่เรียกกันติดปากว่า นกเขาไม่ขัน อาการแบบนี้จึงเข้าข่าย “ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ” หรือ Erectile Dysfunction โดยมีชื่อย่อสั้น ๆ ว่า ED

สาเหตุของการเกิดภาวะ ED

จริง ๆ แล้วภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เป็นเรื่องที่พบบ่อยไม่มากขึ้น เมื่อคุณผู้ชายอายุมากขึ้น คือตั้ง 50 ปีขึ้นไป ก็อาจจะมีอาการเหล่านี้ได้บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป ไม่ใช่เรื่องน่าอายแต่ย่างใด โดยสาเหตุของภาวะ ED นั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น สภาวะจากโรคเบาหวาน, โรคหัวใจ,  ปัญหาทางอารมณ์ (เครียด ซึมเศร้า วิตก), การสูบบุหรี่, การดื่มเหล้า, ฮอร์โมนทำงานบกพร่อง หรือจากยาบางตัวบางกลุ่ม เป็นต้น ซึ่งคุณสามารถไปพบแพทย์ เพื่อปรึกษาถึงแนวทางในการรักษาได้

แต่ถ้าหากคุณต้องการจะทดลองใช้ ยา เพื่อช่วยบรรเทาอาการนกเขาไม่ขัน คุณต้องคำนึงถึงสาเหตุของที่มาว่าทำไมอวัยวะเพศถึงไม่แข็งตัวก่อน เพราะถ้าหากเกิดจากการที่คุณไม่มีอารมณ์ทางเพศ ถึงแม้ว่าจะถูกกระตุ้น หรือปลุกเร้าอารมณ์เรียบร้อยแล้ว แต่รู้สึกเบื่อหน่าย เฉยชา ไม่สนใจ หรือไม่ตื่นเต้นกับสิ่งเร้าเหล่านั้นเลย การใช้ยา อาจจะไม่ใช่คำตอบของคุณ ดังนั้นการพบแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยปัญหาในเบื้องต้น เพื่อที่จะได้แก้ปัญหาอย่างตรงจุดได้มากกว่า จะช่วยให้คุณและน้องชายกลับมาแข็งแรง คึกคักได้

บทส่งท้าย ก็จบลงไปแล้วกับเรื่องราวของ ยา ที่กำลังเป็นที่สนใจของคุณผู้ชายทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาเพื่อรักษาอาการ ED หรือเพิ่มประสบการณ์เกมรักกับคู่รักของคุณ โดยการใช้ให้ได้ผลนั้น ต้องเป็นไปตามคำแนะนำ หรือหลักการใช้ยาให้ถูกต้อง เพียงเท่านี้คุณก็จะได้สัมผัสประสบการณ์เกมรักอันยาวนานไม่มีสะดุด สร้างความประทับใจให้ทั้งกับตัวคุรเองและคู่รักของคุณ